กรม สบส.ส่ง จนท.ลงตรวจ รพ.เอกชน ย่านรามคำแหง หลังถูกร้องแอบพ่วงค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์มากับค่ารักษาหลายพันบาท

พิมพ์
ข่าวประชาสัมพันธ์
อ่าน: 1475

กรม สบส.ส่ง จนท.ลงตรวจ รพ.เอกชน ย่านรามคำแหง หลังถูกร้องแอบพ่วงค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์มากับค่ารักษาหลายพันบาท

653306

           กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ลงตรวจโรงพยาบาลเอกชน ย่านรามคำแหง หลังถูกร้องใบเสร็จค่ารักษาแอบพ่วงค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งถุงมือยาง และท่อดูดเสมหะ จำนวนหลายพันบาท โดยไม่มีการใช้จริงตามที่ใบเสร็จระบุ

          จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลถึงครอบครัวหนึ่งซึ่งมีการนำผู้สูงอายุ เข้าพักรักษาอาการนอนไม่หลับ สับสน กับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และเมื่อการรักษาเสร็จสิ้นได้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ประมาณ 44,000 บาท แต่เมื่อญาติได้ตรวจสอบใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล กลับพบว่ามีค่าใช้จ่าย จากถุงมือยาง และท่อดูดเสมหะนับร้อยชิ้น เกินมาเกือบ 6,000 บาท นั้น

          นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อตนได้รับทราบข้อมูลก็ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย กรม สบส.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในย่านรามคำแหง โดยมุ่งตรวจสอบในประเด็นว่าทางโรงพยาบาลมีการจัดทำหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการเอกสารแสดงการตรวจโรคอันเป็นเท็จตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทางพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบพบว่า ในวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ทางโรงพยาบาลรับผู้ป่วยติดเตียง อายุ 94 ปี เข้ารับการรักษาด้วยอาการนอนไม่หลับ สับสน และเหนื่อย จึงมีการเบิกเวชภัณฑ์เพื่อใช้ดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งประกอบด้วย ถุงมือยาง 1 กล่อง (108 ชิ้น) และท่อดูดเสมหะ 1 ชุด (25 ชิ้น) และเมื่อการรักษาเสร็จสิ้น ทางโรงพยาบาลจึงแสดงใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายให้กับญาติเพื่อตรวจสอบก่อนชำระเงิน ซึ่งญาติผู้ชำระเงินได้ทักท้วงว่ามีค่าใช้จ่ายเวชภัณฑ์จำนวนมากที่ไม่ได้ใช้จริง เกือบ 6,000 บาท ทางโรงพยาบาลจึงมีการตรวจสอบและแจ้งกับญาติว่าเวชภัณฑ์ที่เกินมานั้นเกิดจากญาติอีกท่านที่ทำหน้าที่เฝ้าผู้ป่วยมีความประสงค์จะนำเวชภัณฑ์ในส่วนที่เหลือกลับไปใช้ที่บ้าน ทางโรงพยาบาลจึงมีการคิดค่าใช้จ่ายในส่วนของเวชภัณฑ์ที่ถูกนำกลับ แต่ญาติที่เป็นผู้ชำระเงินมิได้ประสงค์จะนำเวชภัณฑ์ดังกล่าวกลับไปจึงแจ้งคืนเวชภัณฑ์ให้ตามระบบของโรงพยาบาล ก่อนจะมีการหักค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวออกไป และเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามจริง ซึ่งทางกรม สบส. และโรงพยาบาลก็ได้มีการพูดคุย ชี้แจงกับญาติผู้ป่วยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า  สำหรับปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับอัตราค่ารักษาพยาบาลนั้น มักเกิดเพราะขาดการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับตัวผู้ป่วย หรือญาติ จึงขอกำชับให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ปฏิบัติตามที่กฎหมายสถานพยาบาลกำหนด โดยจะต้องมีการแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆและสิทธิของผู้ป่วยให้เห็นชัดเจนที่จุดบริการ และจัดให้มีจุดสอบถามอัตราค่าบริการ ประการสำคัญ จะต้องเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้สื่อสารทำความเข้าใจในอัตราค่ารักษาพยาบาลกับผู้ป่วย หรือญาติให้ชัดเจน มีการชี้แจงรายละเอียดอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถตรวจสอบหลักฐานการรักษาพยาบาลในกรณีที่มีข้อสงสัย เพื่อลดความเข้าใจผิด หรือข้อเคลือบแคลงต่ออัตราค่ารักษาพยาบาล ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสถานพยาบาลเอกชนแห่งใดในเขตกรุงเทพฯ ไม่จัดแสดงค่าบริการให้ชัดเจน หรือเรียกเก็บค่ารักษาเกินอัตราที่แสดง สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1426 กรม สบส.ในวันและเวลาราชการ กรม สบส.จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้รับบริการทุกราย