สบส. เผยแนวทางปรับโฉมอาคารนิทรรศการไทย พ.ค. นี้ เน้นสร้างความชัดเจน น่าจดจำ ผ่านเทคโนโลยีร่วมสมัย

พิมพ์
ข่าวประชาสัมพันธ์
อ่าน: 78

สบส. เผยแนวทางปรับโฉมอาคารนิทรรศการไทย พ.ค. นี้ เน้นสร้างความชัดเจน น่าจดจำ  ผ่านเทคโนโลยีร่วมสมัยc569faeadb54b3086dadcdf6f48feeb0

1199402c6e42c5bf9b56ff6b4716b633

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เผยแนวทางปรับปรุงการจัดแสดงอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน Expo 2025 Osaka, Kansai เดือนพฤษภาคม เน้นการนำเสนอเนื้อหาที่มีความชัดเจน น่าจดจำ ผ่านเทคโนโลยีร่วมสมัย
         วันนี้ (30 เมษายน 2568) ณ ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน Expo 2025 Osaka, Kansai เพื่อปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาภายในอาคารนิทรรศการไทย ซึ่งมี นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรม สบส. เป็นเลขานุการ โดยนายแพทย์โอภาสฯ ได้มอบหมายให้นายแพทย์กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรม สบส. พร้อมด้วย นายวินิจ เลิศรัตนชัย ที่ปรึกษาคณะทำงานปรับปรุงเพื่อเสนอแนะการจัดแสดงนิทรรศการไทย แถลงข่าว นายแพทย์กรกฤชฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 13 – 29 เมษายน 2568 มีผู้เข้ารับชมอาคารนิทรรศการไทย รวม 142,662 คน เฉลี่ยวันละ 8,391 คน สามารถจำหน่ายอาหารไทยได้ 8,700 เสิร์ฟ โดยมีเมนูที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวเหนียวไก่ย่าง ส้มตำไทย ต้มยำกุ้ง และข้าวซอยไก่ ซึ่งยอดผู้ชมที่มีมากกว่า 1.4 แสน คน ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่เชื่อว่าในช่วงระยะเวลาที่เหลือกว่า 5 เดือน อาคารนิทรรศการไทยจะสามารถเพิ่มยอดผู้เข้าชมเฉลี่ยในแต่ละวันได้มากกว่านี้ ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการฯ ในวันนี้ ได้มีข้อคิดเห็นในการปรับปรุงเนื้อหาการจัดแสดงอาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka, Kansai ให้เหมาะสมมีประสิทธิภาพ โดยนำข้อสั่งการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำมาปรับใช้ในการปรับปรุงงาน อาทิ การเพิ่มเทคโนโลยีการนำเสนอที่ทันสมัย ให้สามารถสร้างประสบการณ์อันดื่มด่ำและเสมือนจริง (Virtual and Immersive Experience) มีการปรับปรุงเส้นทางการเดินชมนิทรรศการ โดยใช้สัญลักษณ์และป้ายบอกตำแหน่ง พร้อมจัดทำแผ่นพับเพื่อบ่งบอกตำแหน่งและเนื้อหานิทรรศการอย่างชัดเจน การแก้ไขระบบแสง เสียง ภาพ และองค์ประกอบให้ร่วมสมัย ฯลฯ ซึ่งจะมีการระดมความคิดเห็นจากทีมที่ปรึกษา และตัวแทนจากทุกภาคส่วน ก่อนแจ้งไปยังผู้รับจ้างให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโดยจะมีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ซึ่งกรม สบส.จะมีการติดตามการปรับปรุงเนื้อหาอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความพึงพอใจต่อผู้เข้าชมให้ได้มากที่สุด
          ด้าน นายวินิจฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการพิจารณา อาคารนิทรรศการไทยยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุงเพื่อความเข้มข้นของเนื้อหาในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าถึงเนื้อหาที่ผู้จัดต้องการสื่อ ทั้งในด้านของสาธารณสุขไทย และนโยบายภาครัฐ ซึ่งจะมุ่งเน้นในการปรับปรุงใน 3 ส่วน ได้แก่ 1.เนื้อหาต้องมีความครอบคลุม ชัดเจน น่าจดจำ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เนื้อหาที่นำเสนออาจจะมีความหลากหลายมากเกินไป ทำให้การจดจำไม่ครอบคลุม จึงต้องมีการปรับเนื้อหาให้ชัดเจนขึ้น โดยจะมุ่งเน้นในส่วนนวัตกรรมทางการแพทย์ สมุนไพร และ Wellness ซึ่งเป็นจุดเด่นของประเทศ 2.การผลิต (Production) นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย 3.กิจกรรมเสริมภายในงาน จะต้องสร้างความประทับใจ สามารถนำเสนออัตลักษณ์ มนต์เสน่ห์ของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน รวมทั้ง สร้างความผ่อนคลายให้ผู้เข้าชมในระหว่างที่รอคิวเข้าอาคารนิทรรศการด้วยทีมนักแสดงที่มากความสามารถ ซึ่งตะเป็นตัวแปรสำคัญในการดึงดูดผู้ร่วมงานมายังอาคารนิทรรศการไทย