กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

สบส.ชวนแสดงความเห็นร่างคู่มือตรวจสอบระบบวิศวกรรมห้องบริการทางการแพทย์

5e1481ccbcd3af2cd5869b4b77cfcaa7

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนผู้ดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมของสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่สนใจ ร่วมประชาพิจารณ์ร่าง “คู่มือแนวทางการตรวจสอบ ทดสอบระบบทางวิศวกรรมของห้องให้บริการทางการแพทย์และห้องผ่าตัดในสถานบริการสุขภาพ” เพื่อนำความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้ไปใช้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพระบบวิศวกรรมในสถานพยาบาลทั่วไทย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568

          นายแพทย์กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กรม สบส.ในฐานะหน่วยงานหลักที่ให้การส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนางานด้านวิศวกรรมการแพทย์ วิศวกรรมความปลอดภัยในสถานบริการสุขภาพตามมาตรฐานวิชาชีพและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคุ้มครองผู้รับบริการให้ได้รับความปลอดภัย กองวิศวกรรมการแพทย์ กรม สบส.จึงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน จัดทำร่าง “คู่มือแนวทางการตรวจสอบ ทดสอบระบบทางวิศวกรรมของห้องให้บริการทางการแพทย์และห้องผ่าตัดในสถานบริการสุขภาพ” ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของบุคลากรของกรม สบส. และผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในสถานพยาบาล ตลอดจนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ได้นำไปใช้ในการตรวจสอบห้องให้บริการทางการแพทย์และห้องผ่าตัดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนในการตรวจสอบและทดสอบระบบต่าง ๆ เช่น ระบบอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ ระบบควบคุมการติดเชื้อ ระบบความสะอาด และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการเสริมสร้างความปลอดภัยและคุณภาพของการบริการทางการแพทย์ ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำร่างคู่มือฉบับดังกล่าว มีความสมบูรณ์และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะขาดไปมิได้ กรม สบส.จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมประชาพิจารณ์ร่างคู่มือฯ ผ่านเว็บไซต์กองวิศวกรรมการแพทย์ (https://medi.moph.go.th) ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 และหากมีข้อคำถามสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ 081 899 0761

          “การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนามาตรฐานระบบวิศวกรรมในสถานพยาบาล ซึ่ง กรม สบส. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชน เพื่อให้ร่างคู่มือฯ ฉบับนี้มีความสมบูรณ์” นายแพทย์กรกฤชฯ กล่าว

******** 26 กุมภาพันธ์ 2568 ********

ca0ecb6131425357d00ed03f5dd5e07a

สบส. แนะทำลักยิ้มเสริมโชคให้ปัง หากไม่ระวังอาจพังได้

6be5af622c29d1a5f7a2e8e34c4c6d69

 

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนที่ชื่นชอบการเสริมความงาม และดวงชะตา ด้วยการทำลักยิ้ม พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ชี้การศัลยกรรมลักยิ้มเป็นการผ่าตัดเล็กต้องกระทำโดยแพทย์ในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น มิฉะนั้น อาจปากเบี้ยว ใบหน้าผิดรูป จากบริการที่ไร้มาตรฐาน   

          ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรม สบส. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับผลกระทบจากการศัลยกรรมทำลักยิ้ม ทำให้มีเลือดไหลออกจากแผลนานนับเดือนนั้น ตนและทีมพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรม สบส. ได้ร่วมกับคณะผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิกดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรามคำแหง 2 เขตประเวศ กรุงเทพฯ พร้อมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ ณ กรม สบส. เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย  ซึ่งการที่ประชาชนให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และความงามถือเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม การรับบริการทางการแพทย์ทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยงเฉพาะด้าน อย่างการศัลยกรรมการทำลักยิ้ม (Dimple Surgery / Dimpleplasty) ที่เป็นการศัลยกรรมสร้างลักยิ้มเลียนแบบธรรมชาติ เพื่อเพิ่มเสน่ห์ หรือเพิ่มโชคลาภตามความเชื่อนั้นเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่จะต้องรับบริการจากสถานพยาบาลและแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่มีให้ต่ำที่สุด ด้วยบริเวณใบหน้าประกอบไปด้วยเส้นประสาท และกล้ามเนื้อจำนวนมาก หากผู้ให้บริการขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญ ก็ย่อมสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมาก อาทิ ปากเบี้ยว ใบหน้าผิดรูป เกิดการติดเชื้อที่บาดแผล จนแผลเน่า หรือติดโรคติดต่อจากอุปกรณ์ เช่น เชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบ หรือแบคทีเรีย ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อบริเวณนั้นถูกทำลายได้ ดังนั้น นอกจากประชาชนจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน สถานพยาบาลเองก็ต้องเคร่งครัดมาตรฐาน และมีความซื่อสัตย์ต่อผู้รับบริการในการนำผู้รับบริการ ยา และเวชภัณฑ์ รวมถึงควบคุมมาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้รับบริการ ซึ่งบริการทางการแพทย์ของไทย ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ประเทศ จากความพร้อมของสถานพยาบาล บุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ อัตราค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสม และจิตบริการของบุคลากรทางการแพทย์ไทยซึ่งได้รับความชื่นชมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ

          ทั้งนี้ กรม สบส.จะดำเนินการมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย และกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการรับเรื่องร้องเรียน และตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชน ที่มีเบาะแสการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยให้บุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมมาทำการประกอบวิชาชีพ การที่แขวนป้ายชื่อแพทย์โดยที่แพทย์ไม่ได้อยู่จริง การใช้ผลิตภัณฑ์ยา และเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อตัดตอนกระบวนการการกระทำผิด คุ้มครองประชาชนมิให้ได้รับผลกระทบ หรือสูญเสียจากบริการทางการแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน กรม สบส.ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาในฐานะเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค หากพบเห็นการกระทำผิดของ คลินิกเถื่อน หมอเถื่อน ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ กรม สบส. ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0 2193 7000 แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

6faa769ab4241fa7c0eca16c211951d1

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานด้านสุขภาพในสถานพยาบาลภาครัฐ มุ่งเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและพัฒนากระบวนงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมที่ถูกต้อง สามารถจัดการสุขภาพและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

         ดร.นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรม สบส. มีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุนให้สถานบริการสุขภาพภาครัฐดำเนินงานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสุขศึกษาที่ดี มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีทักษะที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ เนื่องจากสถานการณ์ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรค NCDs การดำเนินงานด้านสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ ควบคู่กับการจัดสภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับบุคคลและชุมชน จึงเป็นกลวิธีที่สำคัญในการจัดการสุขภาพชุมชนที่เครือข่ายสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาชุมชนจัดการสุขภาพให้ประชาชนพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้ ดังนั้น กรม สบส. ได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้สถานบริการสุขภาพทุกระดับมีการดำเนินงานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพตามมาตรฐานสถานพยาบาล ด้านที่ 8 ซึ่งกรม สบส.ได้กำหนดขึ้นและประกาศใช้ในกฎกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้บุคลากรในสถานพยาบาลภาครัฐ จึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานจึงมีความจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพดังกล่าว

            นางสาวมะลิ ไพฑูรย์เนรมิต ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนางานสุขศึกษาในครั้งนี้ เป็นรูปแบบการส่งเสริม การเรียนรู้และฝึกทักษะ การพัฒนางานคุณภาพสุขศึกษา อาทิ สุขศึกษากับกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การฝึกปฏิบัติการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาสุขภาพ ปัจจัยของพฤติกรรมสุขภาพการออกแบบกิจกรรม และการจัดทำโครงการสุขศึกษาและการประเมินผล เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบงานด้านสุขศึกษาจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน 1,075 แห่ง การดำเนินงานสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญต้องการส่งเสริมสุขภาพประชาชน ทำให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ นำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายในการรักษาและลดความแออัดในโรงพยาบาล

********** 7 กุมภาพันธ์ 2568**********

5dc78c475a7f3b3c6c1c76727ca758fc950f93bb19c3670d03e6c7e22cb7edd5312d73c58f4bd7cf472a8b989b4a7e04

หมวดหมู่รอง

หน้าที่ 1 จาก 54

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ