- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 82
สบส. ชวนผู้มีคุณสมบัติร่วมสมัครเลือกตั้งคณะกรรมการวิชาชีพ 7 สาขา วาระ พศ. 2568 – 2572
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 93
สรุปข่าวผ่านสื่อมวลชน ประจำเดือนธันวาคม 2567
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 120
สบส.ชวนแสดงความเห็นร่างคู่มือตรวจสอบระบบวิศวกรรมห้องบริการทางการแพทย์
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนผู้ดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมของสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่สนใจ ร่วมประชาพิจารณ์ร่าง “คู่มือแนวทางการตรวจสอบ ทดสอบระบบทางวิศวกรรมของห้องให้บริการทางการแพทย์และห้องผ่าตัดในสถานบริการสุขภาพ” เพื่อนำความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้ไปใช้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพระบบวิศวกรรมในสถานพยาบาลทั่วไทย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568
นายแพทย์กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กรม สบส.ในฐานะหน่วยงานหลักที่ให้การส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนางานด้านวิศวกรรมการแพทย์ วิศวกรรมความปลอดภัยในสถานบริการสุขภาพตามมาตรฐานวิชาชีพและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคุ้มครองผู้รับบริการให้ได้รับความปลอดภัย กองวิศวกรรมการแพทย์ กรม สบส.จึงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน จัดทำร่าง “คู่มือแนวทางการตรวจสอบ ทดสอบระบบทางวิศวกรรมของห้องให้บริการทางการแพทย์และห้องผ่าตัดในสถานบริการสุขภาพ” ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของบุคลากรของกรม สบส. และผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในสถานพยาบาล ตลอดจนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ได้นำไปใช้ในการตรวจสอบห้องให้บริการทางการแพทย์และห้องผ่าตัดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนในการตรวจสอบและทดสอบระบบต่าง ๆ เช่น ระบบอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ ระบบควบคุมการติดเชื้อ ระบบความสะอาด และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการเสริมสร้างความปลอดภัยและคุณภาพของการบริการทางการแพทย์ ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำร่างคู่มือฉบับดังกล่าว มีความสมบูรณ์และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะขาดไปมิได้ กรม สบส.จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมประชาพิจารณ์ร่างคู่มือฯ ผ่านเว็บไซต์กองวิศวกรรมการแพทย์ (https://medi.moph.go.th) ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 และหากมีข้อคำถามสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ 081 899 0761
“การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนามาตรฐานระบบวิศวกรรมในสถานพยาบาล ซึ่ง กรม สบส. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชน เพื่อให้ร่างคู่มือฯ ฉบับนี้มีความสมบูรณ์” นายแพทย์กรกฤชฯ กล่าว
******** 26 กุมภาพันธ์ 2568 ********
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 450
สบส. ชวน อสม. ทั่วไทย ร่วมป้องกันฝุ่น PM 2.5
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 180
สบส. แนะทำลักยิ้มเสริมโชคให้ปัง หากไม่ระวังอาจพังได้
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนที่ชื่นชอบการเสริมความงาม และดวงชะตา ด้วยการทำลักยิ้ม พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ชี้การศัลยกรรมลักยิ้มเป็นการผ่าตัดเล็กต้องกระทำโดยแพทย์ในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น มิฉะนั้น อาจปากเบี้ยว ใบหน้าผิดรูป จากบริการที่ไร้มาตรฐาน
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรม สบส. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่าได้รับผลกระทบจากการศัลยกรรมทำลักยิ้ม ทำให้มีเลือดไหลออกจากแผลนานนับเดือนนั้น ตนและทีมพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรม สบส. ได้ร่วมกับคณะผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิกดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรามคำแหง 2 เขตประเวศ กรุงเทพฯ พร้อมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ ณ กรม สบส. เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งการที่ประชาชนให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และความงามถือเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม การรับบริการทางการแพทย์ทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยงเฉพาะด้าน อย่างการศัลยกรรมการทำลักยิ้ม (Dimple Surgery / Dimpleplasty) ที่เป็นการศัลยกรรมสร้างลักยิ้มเลียนแบบธรรมชาติ เพื่อเพิ่มเสน่ห์ หรือเพิ่มโชคลาภตามความเชื่อนั้นเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่จะต้องรับบริการจากสถานพยาบาลและแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่มีให้ต่ำที่สุด ด้วยบริเวณใบหน้าประกอบไปด้วยเส้นประสาท และกล้ามเนื้อจำนวนมาก หากผู้ให้บริการขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญ ก็ย่อมสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมาก อาทิ ปากเบี้ยว ใบหน้าผิดรูป เกิดการติดเชื้อที่บาดแผล จนแผลเน่า หรือติดโรคติดต่อจากอุปกรณ์ เช่น เชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบ หรือแบคทีเรีย ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อบริเวณนั้นถูกทำลายได้ ดังนั้น นอกจากประชาชนจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน สถานพยาบาลเองก็ต้องเคร่งครัดมาตรฐาน และมีความซื่อสัตย์ต่อผู้รับบริการในการนำผู้รับบริการ ยา และเวชภัณฑ์ รวมถึงควบคุมมาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้รับบริการ ซึ่งบริการทางการแพทย์ของไทย ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ประเทศ จากความพร้อมของสถานพยาบาล บุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ อัตราค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสม และจิตบริการของบุคลากรทางการแพทย์ไทยซึ่งได้รับความชื่นชมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ทั้งนี้ กรม สบส.จะดำเนินการมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย และกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการรับเรื่องร้องเรียน และตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชน ที่มีเบาะแสการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยให้บุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมมาทำการประกอบวิชาชีพ การที่แขวนป้ายชื่อแพทย์โดยที่แพทย์ไม่ได้อยู่จริง การใช้ผลิตภัณฑ์ยา และเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อตัดตอนกระบวนการการกระทำผิด คุ้มครองประชาชนมิให้ได้รับผลกระทบ หรือสูญเสียจากบริการทางการแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน กรม สบส.ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาในฐานะเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค หากพบเห็นการกระทำผิดของ คลินิกเถื่อน หมอเถื่อน ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ กรม สบส. ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0 2193 7000 แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 95
สบส. ร่วม แพทยสภา ลงนามความร่วมมือวิชาการ ยกระดับกลไกการคุ้มครองผู้บริโภค
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 181
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานด้านสุขภาพในสถานพยาบาลภาครัฐ มุ่งเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและพัฒนากระบวนงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมที่ถูกต้อง สามารถจัดการสุขภาพและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ดร.นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรม สบส. มีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุนให้สถานบริการสุขภาพภาครัฐดำเนินงานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสุขศึกษาที่ดี มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีทักษะที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ เนื่องจากสถานการณ์ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรค NCDs การดำเนินงานด้านสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ ควบคู่กับการจัดสภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับบุคคลและชุมชน จึงเป็นกลวิธีที่สำคัญในการจัดการสุขภาพชุมชนที่เครือข่ายสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาชุมชนจัดการสุขภาพให้ประชาชนพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้ ดังนั้น กรม สบส. ได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้สถานบริการสุขภาพทุกระดับมีการดำเนินงานสุขศึกษาและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพตามมาตรฐานสถานพยาบาล ด้านที่ 8 ซึ่งกรม สบส.ได้กำหนดขึ้นและประกาศใช้ในกฎกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้บุคลากรในสถานพยาบาลภาครัฐ จึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานจึงมีความจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพดังกล่าว
นางสาวมะลิ ไพฑูรย์เนรมิต ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนางานสุขศึกษาในครั้งนี้ เป็นรูปแบบการส่งเสริม การเรียนรู้และฝึกทักษะ การพัฒนางานคุณภาพสุขศึกษา อาทิ สุขศึกษากับกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การฝึกปฏิบัติการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาสุขภาพ ปัจจัยของพฤติกรรมสุขภาพการออกแบบกิจกรรม และการจัดทำโครงการสุขศึกษาและการประเมินผล เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบงานด้านสุขศึกษาจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน 1,075 แห่ง การดำเนินงานสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญต้องการส่งเสริมสุขภาพประชาชน ทำให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ นำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายในการรักษาและลดความแออัดในโรงพยาบาล
********** 7 กุมภาพันธ์ 2568**********
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 332
ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านผู้ดำเนินการฯ ประเภทกิจการสปา ประจำปี 2568
หมวดหมู่รอง
หน้าที่ 1 จาก 54