- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 39
สบส. ชวน อสม. ร่วมแสดงความคิดเห็นพัฒนา (ร่าง) พ.ร.บ. อสม. 25 เม.ย. – 10 พ.ค. นี้
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ชวนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือประชาชนทั่วไป ร่วมพัฒนา (ร่าง) พระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ... ผ่านการแสดงความคิดเห็นทางเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน – 10 พฤษภาคม 2568
ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า ในการพัฒนาระบบสุขภาพเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ถือเป็นบุคคลสำคัญที่เข้ามามีส่วนในการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ มีความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสุขภาพและการจัดบริการสาธารณสุขในชุมชน ซึ่งการจะให่การดำเนินการข้างต้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้น พี่น้อง อสม.ทั่วประเทศ ทั้ง 1.09 ล้านคน จะต้องได้รับการยกระดับทักษะขีดความสามารถในการดำเนินการตามหลักการสาธารณสุขมูลฐาน โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ อสม. จึงตั้งเป้าผลักดันพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ... ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อช่วยพัฒนาทักษะ รับรองสถานภาพ และดูแลสิทธิประโยชน์ ของพี่น้อง อสม.อย่างยั่งยืน ซึ่ง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) พระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ... เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจพิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเปิดรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) พระราชบัญญัติฯ ผ่านระบบกลางทางกฎหมาย ไม่น้อยกว่า 15 วัน กรม สบส.จึงขอเชิญชวนพี่น้อง อสม. และประชาชนทุกท่าน ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พระราชบัญญัติฯ ผ่านเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย https://law.go.th ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน – 10 พฤษภาคม 2568 เพื่อความสมบูรณ์ของการจัดทำร่างกฎหมาย และกฎหมายลำดับรอง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปตามลำดับ
“ความคิดเห็นของ อสม.ทุกท่านถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนากฎหมาย (ร่าง) พระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ... ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างการมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพของชุมชน หนุนเสริมนโยบายภาครัฐ ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขจนมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าว
ด้านนายแพทย์อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า สำหรับโครงสร้างของ (ร่าง) พระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ... มีทั้งหมด 5 หมวด และบทเฉพาะกาล มี 65 มาตรา โดยมีสาระสำคัญในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจและสวัสดิการแก่พี่น้อง อสม. ประกอบด้วย การกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านระดับประเทศ ระดับเขตสุขภาพ ระดับจังหวัด และกรุงเทพมหานคร การคัดเลือก ขึ้นทะเบียน การพ้นสภาพ บทบาทหน้าที่ สิทธิประโยชน์และการสนับสนุนกิจการ อสม. เป็นต้น
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- อ่าน: 212
สบส. เผยแนวทางปรับโฉมอาคารนิทรรศการไทย พ.ค. นี้ เน้นสร้างความชัดเจน น่าจดจำ ผ่านเทคโนโลยีร่วมสมัย
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เผยแนวทางปรับปรุงการจัดแสดงอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน Expo 2025 Osaka, Kansai เดือนพฤษภาคม เน้นการนำเสนอเนื้อหาที่มีความชัดเจน น่าจดจำ ผ่านเทคโนโลยีร่วมสมัย
วันนี้ (30 เมษายน 2568) ณ ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน Expo 2025 Osaka, Kansai เพื่อปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาภายในอาคารนิทรรศการไทย ซึ่งมี นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรม สบส. เป็นเลขานุการ โดยนายแพทย์โอภาสฯ ได้มอบหมายให้นายแพทย์กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรม สบส. พร้อมด้วย นายวินิจ เลิศรัตนชัย ที่ปรึกษาคณะทำงานปรับปรุงเพื่อเสนอแนะการจัดแสดงนิทรรศการไทย แถลงข่าว นายแพทย์กรกฤชฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 13 – 29 เมษายน 2568 มีผู้เข้ารับชมอาคารนิทรรศการไทย รวม 142,662 คน เฉลี่ยวันละ 8,391 คน สามารถจำหน่ายอาหารไทยได้ 8,700 เสิร์ฟ โดยมีเมนูที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวเหนียวไก่ย่าง ส้มตำไทย ต้มยำกุ้ง และข้าวซอยไก่ ซึ่งยอดผู้ชมที่มีมากกว่า 1.4 แสน คน ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่เชื่อว่าในช่วงระยะเวลาที่เหลือกว่า 5 เดือน อาคารนิทรรศการไทยจะสามารถเพิ่มยอดผู้เข้าชมเฉลี่ยในแต่ละวันได้มากกว่านี้ ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการฯ ในวันนี้ ได้มีข้อคิดเห็นในการปรับปรุงเนื้อหาการจัดแสดงอาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka, Kansai ให้เหมาะสมมีประสิทธิภาพ โดยนำข้อสั่งการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำมาปรับใช้ในการปรับปรุงงาน อาทิ การเพิ่มเทคโนโลยีการนำเสนอที่ทันสมัย ให้สามารถสร้างประสบการณ์อันดื่มด่ำและเสมือนจริง (Virtual and Immersive Experience) มีการปรับปรุงเส้นทางการเดินชมนิทรรศการ โดยใช้สัญลักษณ์และป้ายบอกตำแหน่ง พร้อมจัดทำแผ่นพับเพื่อบ่งบอกตำแหน่งและเนื้อหานิทรรศการอย่างชัดเจน การแก้ไขระบบแสง เสียง ภาพ และองค์ประกอบให้ร่วมสมัย ฯลฯ ซึ่งจะมีการระดมความคิดเห็นจากทีมที่ปรึกษา และตัวแทนจากทุกภาคส่วน ก่อนแจ้งไปยังผู้รับจ้างให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโดยจะมีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ซึ่งกรม สบส.จะมีการติดตามการปรับปรุงเนื้อหาอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความพึงพอใจต่อผู้เข้าชมให้ได้มากที่สุด
ด้าน นายวินิจฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการพิจารณา อาคารนิทรรศการไทยยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุงเพื่อความเข้มข้นของเนื้อหาในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าถึงเนื้อหาที่ผู้จัดต้องการสื่อ ทั้งในด้านของสาธารณสุขไทย และนโยบายภาครัฐ ซึ่งจะมุ่งเน้นในการปรับปรุงใน 3 ส่วน ได้แก่ 1.เนื้อหาต้องมีความครอบคลุม ชัดเจน น่าจดจำ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เนื้อหาที่นำเสนออาจจะมีความหลากหลายมากเกินไป ทำให้การจดจำไม่ครอบคลุม จึงต้องมีการปรับเนื้อหาให้ชัดเจนขึ้น โดยจะมุ่งเน้นในส่วนนวัตกรรมทางการแพทย์ สมุนไพร และ Wellness ซึ่งเป็นจุดเด่นของประเทศ 2.การผลิต (Production) นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย 3.กิจกรรมเสริมภายในงาน จะต้องสร้างความประทับใจ สามารถนำเสนออัตลักษณ์ มนต์เสน่ห์ของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน รวมทั้ง สร้างความผ่อนคลายให้ผู้เข้าชมในระหว่างที่รอคิวเข้าอาคารนิทรรศการด้วยทีมนักแสดงที่มากความสามารถ ซึ่งตะเป็นตัวแปรสำคัญในการดึงดูดผู้ร่วมงานมายังอาคารนิทรรศการไทย
หมวดหมู่รอง
หน้าที่ 1 จาก 57