กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

กรม สบส. แนะ รพ.รัฐ/เอกชน และคลินิก ยื่นรับรองมาตรฐานการให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ตามกฎหมาย

6d26f2be8bc19c07d708be517cacc000

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข แนะสถานพยาบาลภาครัฐ และเอกชนทุกแห่ง ยื่นขออนุญาตรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ กับกรม สบส. ก่อนเปิดให้บริการ มิฉะนั้นจะถือว่ากระทำผิดกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์

            นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันทั่วประเทศมีสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จำนวน 115 แห่ง จำแนกเป็นสถานพยาบาลภาครัฐ 17 แห่ง สถานพยาบาลภาคเอกชน จำนวน 98 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม 2567) ซึ่งเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของประเทศไทยนั้นมีความก้าวหน้าและทันสมัยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก มีอัตราความสำเร็จในการให้บริการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 48.53 จึงเป็นจุดดึงดูดให้คู่สามีภรรยาที่ประสงค์จะมีบุตรทั้งชาวไทย และต่างชาติ เลือกเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลของประเทศไทย แต่การจะให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือการตั้งครรภ์แทน จะต้องดำเนินการตามมาตรฐานที่ภาครัฐกำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ โดยสถานพยาบาลที่มีความประสงค์จะให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จะต้องยื่นแบบคำขอรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (คทพ.8) กับกรม สบส. โดยหนังสือรับรองมาตรฐานฯ จะมีอายุ 3 ปี หากสถานพยาบาลแห่งใดมีการฝ่าฝืนไม่ขอรับรองมาตรฐานฯ ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 34(2) ในฐานผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ไม่ควบคุมและดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแพทย์ผู้ให้บริการจะเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มาตรา 44 ในฐานไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานในการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ตามมาตรา 15 ถือว่ากระทําการฝ่าฝืนจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม

a9b417dffce9408354964fc348718d1c

            ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า สำหรับ สถานพยาบาลที่ต้องการจะยื่นเรื่องขอรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์นั้น จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 1)มีแพทย์ผู้รับผิดชอบที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหนังสือ ซึ่งแพทย์ผู้รับผิดชอบสามารถเป็นผู้รับผิดชอบสถานพยาบาลได้เพียง 1 แห่ง 2)มีห้องเก็บไข่ ห้องปฏิบัติการอสุจิ และห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน มีเครื่องมือและอุปกรณ์การเตรียมอสุจิ ไข่ เพาะเลี้ยงและแช่แข็งตัวอ่อน และอุปกรณ์กู้ชีพที่พร้อมใช้งาน 3)มีหนังสือแสดงความยินยอมให้ผู้รับบริการ ผู้ตั้งครรภ์แทน ผู้บริจาคอสุจิหรือไข่ลงนามรับรองความสมัครใจ 4)มีบุคลากรตามประกาศแพทยสภากำหนด 5)มีคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและจริยธรรม และ6)มีระบบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ที่เก็บรักษาไว้ในสภาพที่ตรวจสอบได้ ไม่น้อยกว่า 10 ปี ในกรณีที่ตั้งครรภ์แทนหรือใช้อสุจิ ไข่ หรือ ตัวอ่อนบริจาค เก็บไว้ไม่น้อยกว่า 20 ปี

            ทั้งนี้ ผู้สนใจรับบริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันทางการแพทย์ สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้ง 114 แห่งได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (https://mrd.hss.moph.go.th/) ในหมวดข่าวสารการคุ้มครองเด็กฯ

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ