กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

กรม สบส. เข้มมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ในสถานดูแลผู้สูงอายุทั่วกรุงฯ

กรม สบส. เข้มมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ในสถานดูแลผู้สูงอายุทั่วกรุงฯ

250764

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ในประเทศ ซึ่งมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านๆมาผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อได้ง่ายและเกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันลดลงตามวัย อีกทั้งในบางรายก็มีโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอด การดูแลผู้สูงอายุจึงต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง และรอบคอบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง ที่มีผู้สูงอายุอยู่เป็นจำนวนมากจะต้องมีดำเนินการอย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัย ถูกต้องตามหลักวิชาการในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19  ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดการระบาด และการเสียชีวิตในผู้สูงอายุด้วยโรคโควิด 19  อีกทั้งเป็นการสนับสนุนการประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศไทยให้สามารถฟื้นตัวและพัฒนา กรม สบส.จึงได้ดำเนินการแจ้งเวียนแนวทางการดำเนินการและการบริหารจัดการสำหรับกิจการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงทุกแห่ง ที่ขึ้นทะเบียนกับกรม สบส.ให้ทุกแห่งปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากพบว่าสถานประกอบการแห่งใดย่อหย่อนมาตรฐานก็จะมีคำสั่งให้แก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องเหมาะสมภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามก็จะมีการดำเนินการในขั้นต่อไปคือสั่งปิดเป็นการชั่วคราว หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตให้ประกอบกิจการต่อไป

นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า สำหรับ มาตรการป้องกันและควบคุมโรคสำหรับกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยกรม สบส.จะเน้นในด้านองค์ประกอบของการจัดบริการของผู้ประกอบการ ผู้ดำเนินการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ พนักงานทำความสะอาด รวมถึงตัวของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุรายใหม่ ผู้มาติดต่อและเข้าเยี่ยม โดยการรับผู้สูงอายุรายใหม่จะต้องมีผลตรวจโรคโควิด 19 ยืนยันก่อนรับตัว และเมื่อรับตัวเข้ามาแล้วจะต้องจัดพื้นที่ให้ผู้สูงอายุรายใหม่แยกจากพื้นที่ปกติ มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 14 วัน และจะต้องจัดทีมพนักงานสำหรับดูแลเฉพาะผู้สูงอายุรายใหม่โดยเฉพาะไม่ปะปนกับผู้สูงอายุรายเดิม และเมื่อครบกำหนดการติดตาม 14 วัน ถ้าอาการทั่วไปปกติดีจึงย้ายผู้สูงอายุรายใหม่เข้าพื้นที่ปกติได้ ส่วนผู้มาติดต่อและผู้เข้าเยี่ยม

หากมีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในระยะเวลา 14 วันก่อนหน้า หรือมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ให้งดการเข้าในพื้นที่สถานประกอบการ และในการเข้าเยี่ยมให้เข้าเยี่ยมได้เฉพาะญาติ ซึ่งจะต้องมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล งดการกอด หอม และสัมผัสตัวผู้สูงอายุคนอื่นๆ นอกจากนี้ ยังกำหนดแนวทางปฏิบัติพิเศษสำหรับการเฝ้าระวังในการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะต้องมีการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดเพราะการติดเชื้ออาจมีอาการไม่ชัดเจน อาทิ ไม่มีไข้ แต่มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือรับอาหารทางสายยางไม่ได้ ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากพบผู้ที่มีอาการข้างต้นให้รีบปรึกษาแพทย์ และในกรณีที่ตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 ในสถานประกอบการจะต้องรายงานการติดเชื้อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และส่งต่อผู้ติดเชื้อไปโรงพยาบาล โดยประสานงานกับ 1669 พร้อมแยกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสัมผัสเชื้อ เพื่อส่งตัวไปยังสถานที่กักตัว 14 วันอีกด้วย

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ