กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

กรม สบส.สนธิกำลังตำรวจ บุกรวบหมอเถื่อนคาคลินิกย่านศรีวรา สั่งฟันโทษไม่เว้นทั้งหมอและคลินิก

กรม สบส.สนธิกำลังตำรวจ บุกรวบหมอเถื่อนคาคลินิกย่านศรีวรา สั่งฟันโทษไม่เว้นทั้งหมอและคลินิก

line_album_แถลงข่าวกองปราบ-7-4-65_๒๒๐๔๐๗73B73C00-D13B-F09E-B582-5FFAE972D0AC

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สนธิกำลังตำรวจบุกรวบหมอเถื่อน แอบอ้างเป็นแพทย์เกียรตินิยม มาลักลอบให้บริการเสริมความงามในคลินิกย่านศรีวรา สั่งฟันโทษทั้งตัวหมอ และสั่งปิดคลินิก 30 วันทันที

         วันนี้ (7 เมษายน 2565) ณ กองบังคับการปราบปราม นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ กรม สบส.ได้รับการประสานจากกองกำกับการ 4  กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่าพบเบาะแสบุคคลแอบอ้างเป็นแพทย์ มาให้บริการเสริมความงาม เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ ในคลินิกแห่งหนึ่งย่านศรีวรา แขวงพลับพลา  เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ร่างกายของประชาชน ถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิตได้ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรม สบส. จึงได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข้างต้นโดยทันที ซึ่งจากการตรวจสอบสื่อออนไลน์ของทางคลินิกที่ถูกกล่าวอ้าง พบการโฆษณาถึงแพทย์ผู้ให้บริการ ชื่อ นพ.ธนากรฯ (ขอสงวนนามสกุล) จึงตรวจสอบข้อมูลไปยังแพทยสภาว่าบุคคลดังกล่าวเป็นแพทย์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งได้รับข้อมูลกลับมาว่าไม่มีรายชื่อของ นพ.ธนากรฯ แต่อย่างใด จึงตั้งข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าบุคคลดังกล่าวนั้นเป็นหมอเถื่อน พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว โดยพบนายธนากรฯ กำลังให้บริการรักษาประชาชนอยู่ภายในคลินิก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวและสอบถามข้อเท็จจริง โดยนายธนากรฯให้การยอมรับว่าตนแอบอ้างเป็นแพทย์ ซึ่งได้รับปริญญาเกียรตินิยม จากมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง เพื่อให้บริการเสริมความงาม ณ คลินิกดังกล่าวจริง จึงได้ตั้งข้อหากับผู้กระทำผิดในเบื้องต้น 3 ข้อหา ได้แก่ 1.นำเข้าข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอมสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน 2.ใช้คำว่าแพทย์ นายแพทย์ ประกอบกับชื่อนามสกุลของตน เพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และ 3.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต (หมอเถื่อน) นอกจากนี้ ในส่วนของคลินิกที่รับหมอเถื่อนรายนี้มาให้บริการ กรม สบส. ก็ได้มีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว 30 วัน เพื่อปรับปรุงมาตรฐานให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมแจ้งข้อหาการกระทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับแพทย์ผู้ดำเนินการประจำคลินิก ในฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นที่มิใช่แพทย์มาให้บริการในสถานพยาบาล อีกทั้งจะมีการขยายผลตรวจสอบถึงโฆษณาของคลินิกว่ามีการขออนุมัติ หรือมีเนื้อหาที่เป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินจริงหรือไม่ หากพบการกระทำผิดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า กรม สบส. ขอเน้นย้ำให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น รพ.เอกชน หรือคลินิก ต้องเข้มงวดในการคัดกรองบุคลากรที่จะมาให้บริการ ในกรณีที่พบว่าสถานพยาบาลมีการให้บุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพมาให้บริการในสถานพยาบาล นอกจากจะมีบทลงโทษกับตัวผู้กระทำผิดแล้ว ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเองก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายด้วย จะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะบริการทุกประเภทของสถานพยาบาลนั้นย่อมเกี่ยวพันกับสุขภาพ และชีวิตของผู้รับบริการ จึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพมาตรฐานการบริการอยู่เสมอ ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดพบเห็นหรือทราบเบาะแสของหมอเถื่อน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม สบส.1426 เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ