4 หน่วยงาน จับมือกระตุ้นเศรษฐกิจสุขภาพประเทศ จัดงาน Thailand International Health Expo 2021
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และสสส. จัดงาน “Thailand International Health Expo 2021” วันที่ 16 -19 กรกฎาคม 2564 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ทั้งในรูปแบบ Online และ On Ground กระตุ้นเศรษฐกิจสุขภาพประเทศ เผยแพร่ภาพลักษณ์ความเป็นหนึ่งของระบบสุขภาพไทย สร้างความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการควบคุมโรคโควิด19 ของรัฐบาล วันนี้ (10 มีนาคม 2564) ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวงาน “Thailand International Health Expo 2021” นายอนุทินกล่าวว่า จากสถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือของคนไทยและระบบการสาธารณสุขที่เข้มแข็งเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ รวมทั้งรัฐบาลได้จัดหาวัคซีนป้องกันโรคเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนในประเทศไทย และได้ผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ตามมา เพื่อให้ทุกภาคส่วนฟื้นตัว เกิดความสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจประเทศ โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ 3 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน Thailand International Health Expo 2021 เป็นครั้งแรก ภายใต้แนวคิด “สร้างสุขภาพ เสริมเศรษฐกิจ เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน” ระหว่างวันที่ 16 -19 กรกฎาคม 2564 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ทั้งในรูปแบบ Online และ On Ground เพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ความเป็นหนึ่งของระบบสุขภาพไทย สร้างความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการควบคุมโรคโควิด19 ของรัฐบาล การเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขในการเปิดรับนักท่องเที่ยว และนักเดินทางเชิงธุรกิจจากต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมและขับเคลื่อนการกระจายรายได้ผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในงาน เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นำระบบสุขภาพช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ประมาณ 50,000 – 100,000 คน ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การจัดงาน Thailand International Health Expo 2021 จัดขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไป บุคลากรด้านสุขภาพ และผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขนานาประเทศ โดยเชื่อมโยงระบบสาธารณสุขและอุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลกไว้ในงานเดียวกัน แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนนิทรรศการจากหน่วยงานชั้นนำ 14 Pavilions อาทิ พระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านสาธารณสุข, Hero of COVID-19 เชิดชูบุคลากรผู้มีคุณูปการต่อระบบสาธารณสุขไทย, สร้างความเชื่อมั่นนโยบายและการจัดการโรคโควิด 19 ของรัฐบาล, วัคซีนโควิด 19, กัญชาและกัญชง, ศักยภาพศัลยแพทย์, ศักยภาพระบบสาธารณสุขไทย, สมุนไพรไทย เป็นต้น โซนกิจกรรมเวที เน้นกิจกรรมทางการแพทย์ โซนบริการประชาชน ให้บริการเบ็ดเสร็จจุดเดียว เช่น การยื่นขออนุญาตสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจากหน่วยบริการรัฐและเอกชน บริการทางการแพทย์แผนปัจจุบัน/ แพทย์แผนไทย/ แพทย์แผนจีน ตรวจสุขภาพ นวดสปา เป็นต้น โซนจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ที่เกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน ธุรกิจและบริการสุขภาพ และโซนการประชุมสัมมนา บรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลก นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายการทำงานของทีเส็บ คือ การสร้างความร่วมมือในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจไมซ์ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ การจัดงาน Thailand International Health Expo 2021 นับเป็นความร่วมมือสำคัญของทีเส็บ ในฐานะเจ้าภาพหลักร่วมบริหารการจัดงานกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเวทีการจัดงานประจำปีด้านการแพทย์สาธารณสุข และการดูแลสุขภาพให้กับประชาชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการดูแลสุขภาพ และการพัฒนาของสาธารณสุขไทย ที่จะสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ และยกระดับอุตสาหกรรมการจัดงานไมซ์ของประเทศไทย เป็นการวางรากฐานและความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการเสริมความแกร่งทางธุรกิจให้อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งยังแสดงให้นานาประเทศทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศไทย ในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการจัดงานทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Medical and Wellness Hub) ในระดับภูมิภาคเอเชียอีกด้วย