กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

bfdc3940d6a2d63e77063861b16fb9cd

 

กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือโรค NCDs เกิดจากการมีพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ การกินอาหารที่มีรสจัด การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การสูบบุหรี่จัด รวมถึงการออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอ โดยอาการในกลุ่มโรค NCDs นี้ จะไม่ป่วยโดยทันที แต่จะค่อย ๆ สะสมจนเกิดโรคในอนาคต ซึ่งกลุ่มโรค NCDs ที่มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง

466044e55f279d94238620c897ad5fb6

                พฤติกรรมการกลั่นแกล้ง หรือบูลลี่ (Bully) เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ผู้ถูกระทำได้รับความเดือดร้อนทางกายและจิตใจ เกิดการสั่งสมความกลัว ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจในตนเอง และอาจก่อให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการเข้าสังคมตามมา ลักษณะของการถูกบลูลี่นั้น มี 4 ประเภท ดังนี้

d9eef48e08b4048767f98152d4da1c87

การรู้จักป้องกันโรคอย่างถูกวิธี จะช่วยควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคได้ ความพอดี คือ  การสร้างความสมดุล ความเหมาะสม ร่างกายของเรามีกลไกในการปรับสมดุลเพื่อต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ การใช้ชีวิต อย่างพอดี จึงเป็นวิธีลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ ด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำ ดังนี้

5b2f31be1eec3c49ad59d9be49797154

 

“พอด” หรือบุหรี่ไฟฟ้า มีสารเคมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีผลต่อสุขภาพผู้สูบและผู้ใกล้ชิด หนึ่งในสารเคมีอันตราย คือ “นิโคติน” ซึ่งมีผลต่อเด็กและเยาวชนทั้งร่างกาย และจิตใจ โดยนิโคติน  ทำให้เกิดการเสพติดและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสมองที่กำลังพัฒนาของเด็ก ในด้านจิตใจ ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้น้อยลง ส่วนด้านสังคม ทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ขาดสมาธิ และสมรรถนะ  ในการเรียนรู้ เด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะนำไปสู่การเสพยาเสพติดชนิดร้ายแรง ดังนั้น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือคนใกล้ชิด ต้องช่วยกันเฝ้าระวังภัย จากบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นกับลูกหลานท่านได้        โดยสามารถปฏิบัติได้ ตามวิธีต่อไปนี้

  1. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว
  • ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน ไม่สูบบุหรี่ในที่ใกล้ตัวเด็ก เพราะเด็กจะได้รับไอหรือควันจากบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กด้วยการไม่สูบบุหรี่ เพราะผลจากการวิจัยพบว่าลูกที่พ่อแม่สูบบุหรี่ ส่วนใหญ่ ก็จะสูบตามด้วย
  1. สอดแทรกความรู้
  • ให้ความรู้กับเด็กเมื่อพบเห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อต่าง ๆ เพราะเด็กอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับการโฆษณาจากสื่อ
  • ชี้แนะเรื่องอันตรายจากสารนิโคติน และสารเคมีก่อโทษ ผลเสียของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ที่ส่งผล ต่อสุขภาพในระยะยาว
  • ฝึกให้เด็กรู้จักคิด ตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญขึ้น เช่น ไม่ไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ไม่เข้ากลุ่มเพื่อนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า
  1. ดูแลช่วยเหลือ
  • ผู้ปกครอง หรือคนใกล้ชิดต้องรู้จักรูปลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ของบุหรี่ไฟฟ้า โดยสังเกตสิ่งที่มีลักษณะ เป็นหลอดดูด มีกลิ่นหอม อาจตรวจสอบดูจากอุปกรณ์การเรียนหรือของเล่น
  • สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้อบอุ่น พูดคุยและรับฟังลูกหลานบ้าง ในเรื่องที่เด็กต้องเรียนรู้และรับมือ เช่น มีเพื่อนสูบบุหรี่ไฟฟ้า จากนั้นจึงค่อยให้ข้อมูลและความรู้เพิ่มเติม
  • ทำความรู้จักกับเพื่อนลูก ว่ามีใครสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือติดยาเสพติด พยายามตักเตือน ห้ามปราบ แจ้งผู้ปกครองของเพื่อนลูกที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า และให้ความรู้เรื่องโทษและภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า
  • เมื่อรู้ว่าเด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้า ควรพูดคุยด้วยดีเพื่อหาทางออกร่วมกัน ให้กำลังใจในการพยายามเลิก และหากิจกรรมให้เด็กทำ

ความรัก ความเข้าใจ ช่วยสร้างความอบอุ่นในครอบครัว เมื่อเด็กอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ พ่อแม่ไม่ควรปล่อยปละละเลยให้เด็กไปพึ่งพาบุหรี่ไฟฟ้าที่จะนำไปสู่สิ่งเสพติดชนิดอื่น ๆ      เพื่อคลายเครียดหรือแก้ปัญหาด้วยตนเอง ควรเฝ้าระวังพฤติกรรมของเด็กอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกหลานผ่านพ้นช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้กับความหลงผิดไปให้ได้ ดังนั้น เมื่อพ่อ แม่ ผู้ปกครอง          หรือคนใกล้ชิด ช่วยกันเฝ้าระวัง เป็นแบบอย่างที่ดี คอยให้คำแนะนำ ให้ความรู้ และดูแลช่วยเหลือ ก็จะทำให้ลูกหลานของท่านปลอดภัยจากอันตรายของสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า

 

แหล่งข้อมูล :       1)  ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)    2)  มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่       22 เมษายน 2567

 

1c1c995b7fbf7eec1a35e8c00c049db5

โรคเบาหวาน หลายๆ คนอาจคิดว่าเป็นได้เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ความจริงแล้วเบาหวานสามารถ    เกิดในเด็กได้เช่นกัน  ซึ่งเกิดจากการขาดอินซูลิน หรือการทำงานของอินซูลินบกพร่อง ซึ่งอินซูลินเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตได้จากตับอ่อน ทำหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายเพื่อสร้างเป็นพลังงาน

e531bfec784323ded0686719b623c297

 

บุหรี่ไฟฟ้า คืออะไร ?

บุหรี่ไฟฟ้าหรือที่วัยรุ่นเรียกว่า “พอด” คือ อุปกรณ์การสูบชนิดหนึ่งที่ถูกนำไปใช้กับน้ำยาในบุหรี่ไฟฟ้า เป็นไอระเหยด้วยความร้อน ในน้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนผสมของสารเคมีอีกหลายชนิด เช่น สารนิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติด และยังตรวจพบสารเคมีอันตรายอื่น ๆ ผสมอยู่ด้วย เช่น น้ำยากำจัดวัชพืช และน้ำยาล้างเล็บ

ทำไมเด็กถึงเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าง่าย และเสพติดไปโดยไม่รู้ตัว ?

ด้วยรูปลักษณ์ของบุหรี่ไฟฟ้า ที่ออกแบบให้เป็นที่สนใจของเด็กวัยรุ่นปัจจุบัน เช่น มีรูปร่างเหมือนปากกา แฟล็ชไดร๊ฟ (Flash Drive) รูปตัวการ์ตูนต่าง ๆ พกพาสะดวก อีกทั้งมีกลิ่น มีรสชาติที่หลอกล่อ กระตุ้นความสนใจ ให้อยากรู้อยากลอง ทำตามคนอื่นโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบ และเสพติดไปโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา ซึ่งครูและผู้ปกครองบางท่านอาจไม่ทราบว่าลูกหลานของท่าน กำลังเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ และไม่รู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเด็กและคนรอบข้าง

อันตรายที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า สร้างโรคอะไรกับเด็กที่สูบได้บ้าง ?

อันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพของเด็กที่สูบ ได้แก่ เกิดการระคายเคือง ไอ เหนื่อยง่าย เสี่ยงที่จะเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ภาวะหลอดเลือดแข็ง จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ความดันโลหิตสูง เซลล์สมองถูกทำลาย อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ความจำลดลง เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง อาจเกิดแผลในกระเพาะ คลื่นไส้        อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อน และอาจก่อโรคมะเร็งได้ โดยที่บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้เป็นอันตรายเพียงเฉพาะตัวผู้สูบเท่านั้น คนรอบข้างที่สูดดมควันเข้าไปก็จะได้รับผลในระยะยาวต่อการพัฒนาสมอง   ระบบประสาทและหน่วยความจำได้อีกด้วย

Stop ! หยุดการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กวัยรุ่น

การเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุยังน้อย จะเพิ่มโอกาสเป็นผู้เสพติดบุหรี่ไฟฟ้าไปตลอดชีวิต และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคจากอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ดังนั้น การป้องกันไม่ให้เด็กวัยรุ่นเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองและคนใกล้ชิด ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่องดูแล สังเกตพฤติกรรม ห้ามปราม เตือนให้เห็นถึงอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นแบบอย่างที่ดีด้วยการไม่สูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงทำให้บ้านเป็นพื้นที่   ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้เด็กวัยรุ่น วัยเรียน ซึ่งเป็นลูกหลานของท่านมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดอันตราย   บุหรี่ไฟฟ้าก่อโรค

 

แหล่งข้อมูล :     1)  มหาวิทยาลัยมหิดล    2)  สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี       10 เมษายน 2567

86ef1e41c3ac5503eb51e590cde3408f

โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ เป็นโรคติดต่อร้ายแรงจากการติดเชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies) ซึ่งพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะนำโรคสู่คน เช่น หมา แมว โค กระบือ หนู ลิง กระรอก กระต่ายและค้างคาว เป็นต้น โดยเฉพาะหมาและแมวเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดและเป็นพาหะที่นำโรคพิษสุนัขบ้ามาสู่คนบ่อยกว่าชนิดอื่นๆ จากการถูกกัด ข่วน หรือ  ถูกสัตว์เลียบาดแผล ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะมีอาการสมองอักเสบ ไม่ค่อยรู้สึกตัว กลัวน้ำ กลัวลม บางรายอาจมีอาการแขนขาอ่อนแรง และหากร้ายแรงจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตภายใน 1 สัปดาห์หลังมีอาการติดเชื้อได้  ซึ่งในปัจจุบันโรคพิษสุนัขบ้ายังไม่มีวิธีรักษา ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีโอกาสเสียชีวิตแทบทุกราย ดังนั้น การป้องกันไม่ให้ตนเองติดเชื้อจึงมีความจำเป็นอย่างมาก แนวทางการป้องกันการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า สามารถทำได้ดังนี้

f38b110f308d5af63204b52f81512112

“ยาลูกกลอน” อีกหนึ่งรูปแบบยาแผนโบราณ ที่เกิดจากการนำสมุนไพรมาบด แล้วนำผงยาที่ได้ มาคลุกเคล้ากับน้ำผึ้งจนยึดเกาะกัน ปั้นเป็นเม็ดกลม สมัยโบราณใช้วิธีตากแดดจนแห้งสนิทแล้วเก็บใส่ขวดโหลสามารถเก็บไว้กินได้นาน ปัจจุบัน ชื่อของยาลูกกลอน ถูกผู้ค้าบางส่วน นำมาแสวงหาผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงผลเสียต่อสุขภาพ ทำการลักลอบใส่สเตียร์รอยด์ในยาแผนโบราณ สเตียรอยด์ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ ทางการแพทย์ มีคุณสมบัติที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ต้านการอักเสบ ลดอาการปวด ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานเป็นปกติ เป็นต้น จึงทำให้ถูกนำใช้ในการโอ้อวดว่ารักษาได้สารพัดโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคกระดูกและข้อ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งส่วนมากตรวจพบสเตียร์รอยด์ผสมอยู่ในยาลูกกลอนที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อีกทั้งสร้างการจูงใจ หลอกล่อ และใช้ชื่อเรียกต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ได้ง่าย เช่นยาประดง ยาหมอ ยาเบอร์ เป็นต้น

8ee1ba0c3cafc88026235095741686d3

สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญมากสำหรับร่างกาย เพราะมีหน้าที่ในการควบคุมระบบต่างๆ ของร่างกาย   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบความคิด ความจำต่างๆ ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นอาจจะเกิดความเสื่อมถอยของการทำงานหรือโครงสร้างเนื้อเยื่อของสมองได้ ส่งผลให้เกิดอาการหลงๆลืมๆ สมาธิสั้น ความจำสั้น เรียนรู้ได้ช้า ดังนั้น การบำรุงสมอง เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเราสามารถเลือกกินอาหารที่ช่วยบำรุงสมองได้ ดังนี้

หน้าที่ 1 จาก 3

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ