กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

กรม สบส.สนธิกำลังตำรวจ บก.ปคบ. บุกรวบหมอกระเป๋า เดินสายฉีดหน้าทั่วสมุทรสงคราม

กรม สบส.สนธิกำลังตำรวจ บก.ปคบ. บุกรวบหมอกระเป๋า เดินสายฉีดหน้าทั่วสมุทรสงคราม

65112301

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกรวบหมอกระเป๋า เดินสายรับฉีดหน้า ทั่วจังหวัดสมุทรสงคราม พบโฆษณาโจ๋งครึ่มเชิญชวนให้รับบริการไม่ยำเกรงกฎหมาย

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่กรม สบส.ได้รับเบาะแสว่ามีหมอกระเป๋า เดินสายให้บริการฉีดสารเสริมความงาม อาทิ ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสงคราม อีกทั้ง หมอกระเป๋ารายดังกล่าวมีการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับบริการ โดยไม่ยำเกรงกฎหมาย ตนจึงสั่งการพนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 5 กรม สบส.  ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสงคราม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สืบหาข้อเท็จจริง และติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจากการติดตามเบาะแสของหมอกระเป๋ารายนี้ พบว่าในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ได้มีการนัดหมายฉีดสารเสริมความงามให้กับประชาชนที่ร้านทำเล็บแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรสงคราม เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับการยืนยันว่าหมอกระเป๋ารายดังกล่าวเข้ามาให้บริการตามที่นัดหมายแล้ว จึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แสดงตัวเข้าจับกุมในขณะให้บริการ โดยจากการตรวจสอบพบว่าหมอกระเป๋ารายนี้เป็นหญิงชาวไทย อายุ 24 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม อาศัยเพียงประสบการณ์ที่เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ในคลินิกแห่งหนึ่งมาแอบอ้างเป็นแพทย์เดินสายให้บริการฉีดสารเสริมความงาม พนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย และ สสจ.สมุทรสงคราม  ร่วมกันตั้งข้อหากับหมอกระเป๋ารายนี้ในเบื้องต้น 3 กระทง ได้แก่ 1.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 2.จำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และ 3.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า การฉีดสารเสริมความงามนั้น เป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ต้องกระทำโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ และต้องรับบริการภายในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการให้บริการเดินสายให้บริการนอกสถานที่ ซึ่งการฉีดสารเสริมความงามโดยบุคคลที่มิใช่แพทย์นั้น ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะอาจจะก่อให้เกิดความพิการ หรือเสียชีวิตกับผู้รับบริการ จากการที่สารเสริมความงามรั่วไหลเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดจนตาบอด หรือติดเชื้อ จึงขอแนะนำให้ประชาชนเลือกรับบริการเสริมความงามกับสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยก่อนรับบริการทุกครั้งควรตรวจสอบชื่อคลินิกได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (www.mrd-hss.moph.go.th) และตรวจสอบชื่อแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา (www.tmc.or.th) เพื่อความมั่นใจ แต่หากตรวจสอบแล้วไม่พบรายชื่อ ขอให้หลีกเลี่ยงที่จะรับบริการ และแจ้งเบาะแสมาที่กรม สบส. ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป       ************* 24 พฤศจิกายน 2565

s__135790643  s__135790638

s__135790637  s__135790636

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ