กรม สบส. แนะ รพ.เอกชน/คลินิก เตรียมยื่นต่ออายุใบอนุญาตฯ ป้องกันการสิ้นสภาพกลายเป็นสถานพยาบาลเถื่อน
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะโรงพยาบาลเอกชน และคลินิก เตรียมพร้อมยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลก่อนสิ้นปี 2565 หากพ้นกำหนดต่ออายุจะถือว่าสิ้นสภาพกลายเป็นสถานพยาบาลเถื่อน มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ
นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงใกล้เวลาสิ้นสุดปีปฏิทินของทุกปี ถือเป็นช่วงระยะเวลาสำคัญของสถานพยาบาลเอกชน ในการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาล โดยใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจะมีอายุ 10 ปี และใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลจะมีอายุ 2 ปี นับแต่ปีที่ออกใบอนุญาต หากผู้ประกอบกิจการที่ได้รับใบอนุญาตฯ ในปี พ.ศ. 2555 และผู้ดำเนินการที่ได้รับใบอนุญาตในปีฯ พ.ศ. 2563 ไม่ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตฯ ก่อนสิ้นปีปฏิทินก็จะถือว่าสิ้นสภาพการเป็นสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายและกลายเป็นสถานพยาบาลเถื่อนทันที โดยจะมีความผิดตามมาตรา 16 และ 24 ของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐานประกอบกิจการ หรือดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ประการสำคัญ ขอให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง เร่งรีบดำเนินการยื่นเรื่องต่ออายุใบอนุญาตฯ เพื่อมิให้เกิดปัญหาข้อกฎหมาย
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า จากฐานข้อมูลของกรม สบส. ขณะนี้ สถานพยาบาลเอกชนในเขตกรุงเทพที่จะต้องมาดำเนินเรื่องต่ออายุใบอนุญาต จำนวน 333 แห่ง
ส่วนภูมิภาค จำนวน 1,951 แห่ง และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลที่ต้องมาดำเนินเรื่องต่ออายุใบอนุญาตฯ
ในเขตกรุงเทพ จำนวน 2,973 ราย ส่วนภูมิภาค 6,832 ราย จึงขอให้สถานพยาบาลเอกชนและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลดังกล่าว มายื่นเรื่องต่ออายุใบอนุญาตฯ ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของปีปฏิทิน พ.ศ.2565 เพื่อป้องกันการสิ้นสภาพสถานพยาบาลตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการ หรือผู้ดำเนินการสถานพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพ ที่ประสงค์จะต่ออายุใบอนุญาตฯ สามารถยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตฯ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการธุรกิจสุขภาพ กรม สบส. (One Stop Service Center กรม สบส.) ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ