กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

กรม สบส. ร่วมตำรวจ บก.ปคบ. บุกจับหมอเถื่อน คาคลินิก ย่านรามอินทรา

กรม สบส. ร่วมตำรวจ บก.ปคบ. บุกจับหมอเถื่อน คาคลินิก ย่านรามอินทรา

line_album_รูปผู้บริหารกรม-สบส-_๒๒๑๑๒๙9D5BD034-EE4F-278D-FB09-69E5878BCF4D


          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) บุกจับหมอเถื่อนในคลินิกเสริมความงาม ย่านรามอินทรา พบจบการศึกษาระดับ ปวช. แต่แอบอ้างเป็นแพทย์มาให้บริการเสริมความงาม จึงสั่งฟันความผิดทันที 5 กระทง พร้อมออกคำสั่งเรียกผู้ประกอบกิจการ และแพทย์ผู้ดำเนินการสอบเพิ่มเติมว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่


          นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ด้วยกรม สบส.ได้รับเบาะแสจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ว่ามีหมอเถื่อนรายหนึ่ง แอบอ้างว่าตนเป็นแพทย์ไปสมัครงานและลักลอบให้บริการเสริมความงามแก่ประชาชนในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา จึงสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย ประสานงานกับตำรวจ บก.ปคบ. และพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในช่วงบ่ายวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรม สบส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายศาลเข้าตรวจสอบคลินิก ย่านรามอินทรา ซึ่งมีที่ตั้งเป็นอาคาร 1 ชั้น โดยคลินิกดังกล่าวมีการขึ้นทะเบียนและขออนุญาตประกอบกิจารสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับเปิดให้บริการฉีดสารเสริมความงามนอกเวลาที่ขออนุญาต และเมื่อขยายผลตรวจสอบถึงตัวแพทย์ผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นหญิง อายุ 36 ปี กลับพบว่าจบการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม อีกทั้ง หมอเถื่อนรายนี้มิได้ประจำที่คลินิกแต่เดินทางมาจากต่างจังหวัดมาให้บริการฉีดสารเสริมความงามโดยเฉพาะ พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิด ในเบื้องต้น 5 กระทง ประกอบด้วย 1.ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 2.ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 3.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 4.จำหน่ายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยามีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และ 5.จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ก่อนนำตัวผู้กระทำผิดส่งตัวพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการ โดยในกรณี หมอเถื่อนรายนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชน กรม สบส.จะออกคำสั่งปิดสถานพยาบาลชั่วคราว เป็นระยะเวลา 30 วัน พร้อมเรียกผู้ประกอบกิจการ และแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกับกรม สบส. ต่อไป
          ด้านนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กรณี ที่กรม สบส.ตรวจสอบพบว่าสถานพยาบาลใดปล่อยให้หมอเถื่อนมาลักลอบให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน นอกจาก หมอเถื่อนรายดังกล่าวจะมีโทษตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 แล้ว ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็จะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้อนุญาต (กรม สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) อาจจะมีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอีกด้วย จึงขอกำชับให้ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทุกแห่ง ระมัดระวัง และรอบคอบในการเปิดรับบุคลากร และตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้ชัดเจนก่อนรับบุคคลดังกล่าวเข้ามาปฏิบัติงานในสถานพยาบาล เพราะหากตรวจพบหมอเถื่อนในสถานพยาบาลใด ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็มิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเฉกเช่นหมอเถื่อน

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ