สบส. เผย (ร่าง) พ.ร.บ. อสม. คืบเข้าวาระ 2 เตรียมเฟ้นหาหลักการและมาตราที่ดีที่สุด หนุนเสริมศักยภาพการทำงานและสวัสดิการ อสม.
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เผย (ร่าง) พระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... คืบหน้าเข้าสู่วาระที่ 2 ในการระดมความคิดจากคณะกรรมาธิการ และผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน เพื่อเฟ้นหาหลักการและมาตรการทางกฎหมายที่ดีที่สุด ในการหนุนเสริมศักยภาพการดำเนินงาน และสวัสดิการแก่พี่น้อง อสม.อย่างยั่งยืน
วันนี้ (10 กันยายน 2568) ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบัน (ร่าง) พระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... ได้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรใน “วาระที่ 1” หรือชั้นรับหลักการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการใน “วาระที่ 2” คือ การตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและแนวหน้าสุขภาพ พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก มาร่วมพิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ จะนำร่างกฎหมายทุกฉบับที่ผ่านวาระที่ 1 มาพิจารณารายมาตราพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้แทนจากกลุ่มผู้เกี่ยวข้องโดยตรง อาทิ ตัวแทนชมรม อสม. ในระดับต่างๆ ผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข หรือนักวิชาการด้านสาธารณสุข ฯลฯ เข้าให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็น หากพี่น้อง อสม. เห็นว่ามาตราใดจะเป็นการควบคุมหรือสร้างภาระเกินจำเป็น ก็สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านผู้แทน เพื่อให้กรรมาธิการฯ แก้ไขได้ ดังนั้น ร่างกฎหมายที่ออกจากชั้นกรรมาธิการ เพื่อเสนอสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบใน “วาระที่ 3” จะไม่ใช่ร่างกฎหมายจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นร่างกฎหมายฉบับของคณะกรรมาธิการฯ ที่ผ่านการพิจารณาอย่างครบถ้วน รอบคอบ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการส่งเสริมศักยภาพ และดูแลสิทธิประโยชน์ ของพี่น้อง อสม.อย่างยั่งยืน
ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เจตนารมณ์ในการตราพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... นั้น ภาครัฐมุ่งให้ให้เกิดการยกระดับสถานะและสร้างหลักประกันที่มั่นคง ให้กับ อสม. ทุกคน การทำงานยังคงอยู่บนพื้นฐานของจิตอาสา แต่สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และการสนับสนุนต่างๆ จะถูกกำหนดไว้ในกฎหมายที่มีศักดิ์สูงขึ้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ด้วยระเบียบหรือประกาศกระทรวงฯ ที่มีอยู่ สามารถถูกแก้ไขหรือยกเลิกได้โดยฝ่ายบริหาร แต่ “พระราชบัญญัติ” ที่ผ่านรัฐสภา จะมีความยั่งยืนและเป็นหลักประกันที่ถาวร ในการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนค่าป่วยการหรือสวัสดิการอื่นๆ ให้มีความต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว
“ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี พี่น้อง อสม.ได้แสดงพลังและจิตวิญญาณแห่งความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพประชาชนคนไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการระบาดของโรคโควิด 19 คือสิ่งที่สังคมไทยภาคภูมิใจ การมีกฎหมายที่ดีและเหมาะสม จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการหนุนเสริมให้การทำงานของ อสม. มีประสิทธิภาพและมีหลักประกันที่ดียิ่งขึ้น ขอให้พี่น้อง อสม. ทำความเข้าใจ ติดตามข่าวสารจากกรม สบส. อย่างใกล้ชิด อย่าหลงเชื่อข้อมูลที่บิดเบือน และเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ เพื่อสร้างอนาคตของ อสม.ด้วยมือของทุกท่าน”
ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ฯ กล่าวทิ้งท้าย