กรม สบส.ชี้แจง อสม.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นเพียงจิตอาสา ช่วยดูแลสุขภาพของประชาชน
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เข้าสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น สามารถกระทำได้ เนื่องจาก อสม.มิได้เป็นข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น และไม่ได้รับเงินเดือนประจำ แต่ได้รับค่าป่วยการจากทางราชการ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
จากกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า อสม.ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติการลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 50(12) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งเงินเดือน และมาตรา 50(14) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือไม่ ตามที่ปรากฎในสื่อมวลชน
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว กรม สบส. ขอชี้แจงว่า ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ.2554 ข้อ 3 อสม. หมายถึงบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกจากหมู่บ้านหรือชุมชน และผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรฝึกอบรมมาตรฐานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่คณะกรรมกลางกำหนด และตามข้อ 22 ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็น อสม.พร้อมออกบัตรประจำตัว โดย อสม. จะมีหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพในท้องถิ่นและชุมชน ดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ ดูแลผู้ป่วยและเฝ้าระวังโรคในชุมชน และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 เห็นชอบตามยุทธศาสตร์และแผนงานเสริมสร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่งคงทางสังคม โครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเชิงรุก และกระทรวงสาธารณสุขได้ใช้ข้อบังคับตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสิทธิได้รับเงินค่าป่วยการในการปฏิบัติหน้าที่ของ อสม. พ.ศ.2560 โดยข้อ 3 ค่าป่วยการ หมายถึงเงินที่ทางราชการจ่ายให้แก่ อสม.เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่โดยมีหลักเกณฑ์ คือ ต้องมีระยะเวลาในการปฏิบัติงานที่แน่นอนอย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์ หรืออย่างน้อย 4 วันต่อเดือนในกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย และต้องมีการปฏิบัติงานจริง มีการรายงานผลปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงเข้าร่วมประชุมและอบรมเพิ่มพูนความรู้อย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน
จากหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น อสม.ถือเป็นเพียงผู้มีจิตอาสา ที่ได้รับการคัดเลือกจากหมู่บ้านหรือชุมชน จึงไม่ใช่บุคคลซึ่งเป็นข้าราชการ หรือมีตำแหน่งเงินเดือนประจำของกระทรวงสาธารณสุข และไม่ถือเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐหรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐตามมาตรา 50(14) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ในส่วนของเงินที่ได้รับ เป็นเงินค่าสนับสนุนในการปฏิบัติงานเชิงรุกของ อสม.จากทางราชการ และเป็นการชดเชยในส่วนที่ อสม.ต้องจ่ายไปในการปฏิบัติงาน เช่น
ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์และอื่นๆ รวมทั้งค่าเสียโอกาสในการหารายได้จากการประกอบอาชีพประจำมาทำงานจิตอาสา ไม่ใช่เป็นเงินเดือนประจำ ซึ่งกรม สบส.ได้ส่งข้อหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งได้พิจารณาแล้ว มีความเห็นสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับกรม สบส.
นอกจากนี้ นพ.ธเรศ อธิบดีกรม สบส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอความร่วมมือ อสม. ออกรณรงค์เชิญชวนประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในชุมชนออกมาใช้สิทธิ เลือกคนดีเข้ามาบริหารท้องถิ่น และอสม.บางส่วนที่เป็นคณะกรรมการในหน่วยเลือกตั้ง ก็ควรปฏิบัติและวางตัวตามบทบาทหน้าที่ของกรรมการหน่วยเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำมาตรการข้อปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากโรคโควิด 19 ขณะออกมาใช้สิทธิ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นระยะห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร ตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าไปในที่เลือกตั้งและก่อนออกจากที่เลือกตั้ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
*************** 26 มีนาคม 2564