กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ผลักดัน 4 นโยบาย ขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทย มุ่งสร้างความเข้มแข็งระบบบริการสุขภาพ สุขภาพภาคประชาชน ส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ ยกระดับประสิทธิภาพองค์กร สอดรับนโยบาย Quick Win กระทรวงสาธารณสุข 2569
ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2569 ประเทศไทยจะมีความต้องการด้านสุขภาพที่สูงขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอายุของประชากรไทย และการเปลี่ยนแปลงบริบทอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สังคม เทคโนโลยี และการเจ็บป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs รวมถึง การเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวเพื่อรับบริการทางการแพทย์ หรือบริการด้านการส่งเสริมสุขภาพในไทย ดังนั้น เพื่อรองรับความต้องการบริการด้านสุขภาพที่สูงขึ้น ขับเคลื่อนศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพ และสร้างสุขภาพที่ดีให้คนไทยอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย Quick Win ของกระทรวงสาธารณสุข กรม สบส. จึงได้วางนโยบายที่มุ่งเน้นในการสร้างความเข้มแข็งทั้งในด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจใน 4 ข้อ ได้แก่
- สร้างความเข้มแข็งระบบสุขภาพปฐมภูมิ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยการพัฒนาเครือข่ายบริการสุขภาพปฐมภูมิ Health Station หรือ “สถานีสุขภาพ” เป็นจุดบริการที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับชุมชน ยกระดับศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน (ศสมช.) เป็น “ศูนย์ NCDs ประจำหมู่บ้าน” ให้ครบ 76 จังหวัด ยกระดับศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพิ่มทักษะในการปฏิบัติงานด้านสุขภาพ 4 ด้าน ได้แก่ การนวดไทยยืดเหยียดเฉพาะทาง 7 ด้าน การดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) ผู้ช่วยสาธารณสุขในการดูแล ป้องกันโรค และผู้นำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
- ส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ ขับเคลื่อนนโยบาย Medical Hub ผ่านคณะอนุกรรมการฯ เพื่อพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ทั้ง 6 คณะ ส่งเสริมให้ประเทศไทยให้เป็น Hospital Quality ในธุรกิจบริการสุขภาพด้านเวชศาสตร์ความงาม เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ การผ่าตัดแปลงเพศ และ Wellness สร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างขาติด้านความปลอดภัยในระบบบริการสุขภาพ ส่งเสริมเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มบริการด้านสุขภาพของสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
- ขับเคลื่อนมาตรฐานระบบสถานพยาบาล ยกระดับมาตรฐานระบบบริการสุขภาพเป็นมาตรฐานสถานพยาบาลแห่งชาติ พัฒนาพระราชบัญญัติมาตรฐานด้านระบบวิศวกรรมการแพทย์ ส่งเสริมสถานพยาบาลภาครัฐให้มีคุณภาพ ผ่านการรับรอง ตามเกณฑ์มาตรฐานระบบบริการสุขภาพ HS4 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานก่อสร้าง และดูแลบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐาน ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม บังคับใช้กฎหมายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพ และนำ AI มาใช้ในการตรวจจับการกระทำผิดของสถานพยาบาล และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
และ 4. พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร ปรับปรุงโครงสร้างและระบบการทำงาน ให้มีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และอำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ พัฒนาศักยภาพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วม จัดระบบสวัสดิการ เพื่อส่งเสริมความผูกพันในองค์กร และเสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างความไว้วางใจ จากทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมถึงส่งเสริมการเป็นองค์กรดิจิทัล Fully Digital
“ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ตนขอให้บุคลากรทุกท่านเดินหน้าปฏิบัติตามนโยบายอย่างเข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนระบบสุขภาพของประเทศ รวมถึง นำหลักการ “คิดใหญ่ ทำใหม่ สร้างความไว้วางใจ” ที่ได้มอบไว้ มาใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อการพัฒนางานให้เกิดประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่ความเชื่อมั่น และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนต่อไปในอนาคต” ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ฯ กล่าวทิ้งท้าย