กรม สบส.เข้มมาตรฐาน รพ.เอกชน/คลินิก ป้องการระบาดโควิด 19
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้มมาตรฐานสถานพยาบาลเอกชนป้องการระบาดโควิด 19 เผย 8 วัน ปิดฉากเรื่องร้องเรียนสถานพยาบาลเอกชนไปแล้ว 12 เคส
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า หลังสิ้นสุดวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายของประชาชนจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโควิด 19 ในหลายพื้นที่ ซึ่งประชาชนบางส่วนที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรืออยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับการระบาดของโรคย่อมเกิดความวิตกกังวลว่าตนจะได้รับเชื้อ หรือเป็นพาหะนำโรคติดต่อไปยังบุคคลใกล้ชิด ทำให้ความต้องการตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 ในสถานพยาบาลเอกชนเพิ่มมากขึ้น
กรม สบส.จึงมีนโยบายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ กวดขัน ดูแลการดำเนินการของสถานพยาบาลเอกชนอย่างใกล้ชิด หากมีข้อร้องเรียน ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 ต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับบริการตรวจคัดกรอง และดูแล รักษาพยาบาลในกรณีการเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด 19 ที่ถูกต้อง เหมาะสม หยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยระหว่างวันที่ 15 – 22 เมษายน 2564 พนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนจากการให้บริการตรวจรักษาโรคโควิด 19 ในสถานพยาบาลเอกชน จำนวน 12 แห่ง ใน 3 ประเด็น ดังนี้
1) การไม่จัดหาสถานพยาบาลเพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด 19
2) ไม่รายงานการพบผู้ป่วยไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3) การโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุมัติ
โดยในการดำเนินการตามประเด็นที่ 1 และ 2 กรม สบส.ได้มีคำสั่งทางการปกครองตามมาตรา 49 ของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ไปยังสถานพยาบาลข้างต้นเพื่อให้ปฏิบัติตามให้ถูกต้อง หากไม่ปฏิบัติตามก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 36 ซึ่งผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการ จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึง อาจมีคำสั่งให้พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตสถานพยาบาล และในส่วนประเด็นการโฆษณาก็ได้มีคำสั่งให้ระงับการโฆษณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า นอกจากการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อวันที่ 23-25 เมษายน ที่ผ่านมา ตนพร้อมคณะผู้บริหาร และพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรม สบส. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังได้ร่วม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้คำแนะนำข้อกฎหมายแก่ห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของคลินิกเอกชน ในเขตกรุงเทพฯ ทั้ง 15 แห่ง โดยได้หารือ และร่วมรับฟังข้อคิดเห็น และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานจาก ผู้ประกอบกิจการโดยตรง ซึ่งกรม สบส.จะนำข้อมูลที่ได้รับมาพัฒนาข้อกฎหมายและรูปแบบการดำเนินงาน ให้สอดคล้อง เหมาะสม และเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ หากประชาชน มีข้อร้องเรียนการให้บริการของโรงพยาบาลเอกชน/คลินิก หรือสถานพยาบาลเอกชนแห่งใด ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน กรม สบส.1426 ในวันและเวลาราชการ