กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

สบส.แนะตรวจสอบรายชื่อแพทย์ก่อนรับบริการ กันหมอเถื่อนสวมรอยทำหน้าพัง

สบส.แนะตรวจสอบรายชื่อแพทย์ก่อนรับบริการ กันหมอเถื่อนสวมรอยทำหน้าพัง

20211009092129_new18

อธิบดี สบส.แนะตรวจสอบรายชื่อแพทย์ทุกครั้งก่อนรับบริการ กันหมอเถื่อนสวมรอยทำหน้าพัง

          เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าธุรกิจด้านสุขภาพ และความงามยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในช่วงการผ่อนคลายมาตรการให้คลินิกสามารถให้บริการเสริมความงามได้ ก็ถือเป็นช่วงเวลาอันดีที่หนุ่ม-สาว หลายรายจะได้มีโอกาสเสริมความงามเฉพาะจุด หรือยกกระชับสัดส่วนร่างกาย แต่ด้วยเม็ดเงินในธุรกิจฯ ที่มีมูลค่ามากก็ย่อมมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบแฝงเข้ามาหาผลประโยชน์ อาทิ เช่นการที่มีบุคคลอื่นที่มิใช่แพทย์ (หมอเถื่อน) เข้าสวมรอยให้บริการแทนแพทย์จริงในคลินิก ซึ่งการให้บริการของหมอเถื่อนที่ขาดความรู้ความสามารถ ย่อมสร้างผลกระทบต่อสุขภาพ ร่างกายของผู้รับบริการ อย่างการเสริมความงามก็มักจะพบความผิดพลาด ทั้งแผลติดเชื้อ จมูก ปาก หน้าอกผิดรูป เกิดความพิการจากการฉีดสารเสริมความงาม หรือในบางรายก็รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ดังนั้น ในการหลีกเลี่ยงอันตรายจากหมอเถื่อนเหล่านี้ ผู้รับบริการจะต้องหมั่นสังเกตเอกสารหลักฐานประจำคลินิก ซึ่งนอกจากเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และใบอนุญาตให้ประกอบกิจการแล้ว ก่อนเข้าห้องตรวจรักษาจะต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐาน “แบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ (ส.พ.6)” ที่ติดอยู่หน้าห้อง ซึ่งจะแสดงภาพถ่าย ชื่อ นามสกุล สาขา และเลขที่ใบอนุญาตของผู้ให้บริการ และเพื่อความมั่นใจก่อนรับบริการขอให้นำชื่อของแพทย์รายดังกล่าวไปตรวจสอบในเว็บไซต์แพทยสภา (https://tmc.or.th/) หรือหากเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะให้ตรวจสอบที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (http://mrd-hss.moph.go.th/) หากไม่ปรากฏรายชื่อในเว็บไซต์ หรือใบหน้าของผู้ให้บริการไม่ตรงกับภาพถ่ายห้ามรับบริการโดยเด็ดขาด และให้ร้องเรียนมาที่สายด่วน 1426  สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที ทั้งนี้  สบส.มีมาตรการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ดำเนินการเฝ้าระวัง และกวดขันตรวจสอบมาตรฐานของสถานพยาบาลทุกแห่ง ทั้งมาตรการในการเฝ้าระวังการแพร่กระจายและคัดกรองโรคโควิด 19 และคุณภาพ มาตรฐานบริการอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นการกระทำของสถานพยาบาลใดที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานก็อย่าได้กลัวที่จะแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ฯ ขอให้ระลึกว่าหนึ่งเสียงของท่านนั้นย่อมช่วยให้พี่น้องประชาชนอีกหลายรายพ้นจากอันตรายได้

          ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวต่อว่า สำหรับบทลงโทษตามกฎหมาย ในกรณี ที่พบหมอเถื่อนมาลักลอบให้บริการใน คลินิกนั้น มิได้มีแค่บทลงโทษตามกฎหมายพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กับหมอเถื่อนรายเพียงอย่างเดียว ตัวของผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเองก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ด้วย ในฐานปล่อยปละ ละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนอกจากจะถูกลงโทษตามกฎหมายแล้ว สถานพยาบาลยังอาจจะสูญเสียชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือต่อสาธารณชนอีกด้วย จึงขอกำชับให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ดำเนินการคัดกรอง ตรวจสอบประวัติ และเอกสารหลักฐานในการรับสมัครผู้ให้บริการประจำสถานพยาบาลอย่างเข้มงวด โดยอาจจะต้องมีการตรวจสอบจากเอกสารฉบับจริง และหมายเลขโทรศัพท์เพื่อยืนยันว่าผู้สมัครมิได้มีการสวมรอยเป็นบุคคลอื่นมาสมัครงาน

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ