กรม สบส.ประสาน อสม.ทั่วไทยร่วมดูแลประชาชนช่วงลอยกระทง
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประสาน อสม. ทั่วประเทศ ร่วมภาคีเครือข่าย ด่านชุมชน ดูแลประชาชนช่วงเทศกาลลอยกระทง เฝ้าระวังคัดกรองผู้ร่วมงาน ให้คำแนะนำประชาชนในการเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด 19 และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด มีการขับขี่ที่ปลอดภัย รัดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อก ไม่ดื่มสุราหากต้องขับขี่ยานพาหนะ และที่สำคัญต้องดำเนินกิจกรรมตามมาตรการป้องกันโควิด 19 ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่
สืบสานวัฒนธรรมไทย”
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากออกมาร่วมฉลองในเทศกาล อีกทั้งมีการใช้ยานพาหนะเดินทางอย่างคับคั่ง ซึ่งการรวมกลุ่มของประชาชนจำนวนมากก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (COVID 19) อุบัติภัย และอุบัติเหตุ กรม สบส.จึงได้ประสานเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1,050,000 คนทั่วประเทศ ดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายในการเฝ้าระวัง คัดกรองโรคในพื้นที่จัดงานลอยกระทง โดยให้ อสม. ตรวจวัดอุณหภูมิประชาชน ตั้งจุดให้บริการเจลแอลกอฮอลล์ ให้คำแนะนำประชาชนในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่สืบสานวัฒนธรรมไทย” และในส่วนของการเฝ้าระวัง ป้องกันการบาดเจ็บทางถนนในชุมชน ก็ได้ประสานให้ อสม. ให้ความร่วมมือกับฝ่ายปกครองดูแลช่วยเหลือประชาชนหมุนเวียน ร่วมปฏิบัติงาน ณ ด่านชุมชน หากพบผู้ขับขี่มีอาการมึนเมา อสม.ประจำด่านจะขอความร่วมมือให้ผู้ขับขี่พักที่ด่านเพื่อให้หายจากอาการเมาสุรา แต่หากเป็นประชาชนในพื้นที่จะแจ้งให้ญาติหรือผู้ปกครองมารับกลับ เป็นการสกัดกั้นการเกิดอุบัติเหตุจากการจราจร รวมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่ขับขี่ยานพาหนะเกินอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
“ในช่วงเทศกาลที่มีการรวมกลุ่มของประชาชนจำนวนมาก หากย่อหย่อน ไม่ระมัดระวังตัว ก็อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด 19 ได้ พี่น้อง อสม.ทุกท่าน ร่วมสอดส่อง ดูแล พร้อมประชาสัมพันธ์ แนะนำให้ประชาชนทุกคนได้นำแนวคิด “การป้องกันการติดเชื้อโควิดแบบครอบจักรวาล” (Universal Prevention) ไปใช้ในการดูแลตนเอง เกิดการตั้งสติคิดว่าทุกคนคือผู้ติดเชื้อ รวมถึงพี่น้อง อสม.ทุกท่านก็ต้องมีความระมัดระวังขณะปฏิบัติงานหรือใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง เพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรคโควิด 19 ให้ประชาชนได้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ เดินหน้าประเทศ และเศรษฐกิจต่อไป” นายแพทย์ธเรศฯ กล่าว