กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 0 2193 7000

กรม สบส.ร่วมภาคีจัดทีมกวาดล้างเอเจนซี่ นำเข้าหมอนอกมาให้คำปรึกษาความงาม และศัลยกรรม

กรม สบส.ร่วมภาคีจัดทีมกวาดล้างเอเจนซี่ นำเข้าหมอนอกมาให้คำปรึกษาความงาม และศัลยกรรม

line_album_-__

          กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมภาคีเครือข่ายจัดทีมกวาดล้างแพทย์ และสถานพยาบาลเอกชน ตั้งตัวเป็นเอเจนซี่ นำเข้าแพทย์ต่างชาติมาให้คำปรึกษาความงามแก่ประชาชนจนเกิดความเสียหาย ชี้ผิดทั้งกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม และกฎหมายสถานพยาบาล มีโทษทั้งหมอไทยและหมอนอก

          นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมากรม สบส.ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการศัลยกรรม หรือเสริมความงามอยู่เป็นระยะ ซึ่งกรม สบส.ก็มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น โดยมีการจัดทีมพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้รับบริการและสถานพยาบาลเสมอมา โดยหนึ่งในประเด็นเรื่องร้องเรียนที่กรม สบส.ตรวจสอบพบว่ามีความน่าสนใจและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้ คือ การเชิญชวนประชาชนให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ต่างชาติ หรือเดินทางไปรับบริการศัลยกรรมเสริมความงามกับสถานพยาบาลต่างประเทศ โดยมีแพทย์หรือสถานพยาบาลในไทยเกี่ยวข้องในลักษณะมีเอเจนซี่ (Agency) ให้การสนับสนุนทั้งการจัดกิจกรรมให้คำปรึกษา จัดโปรโมชั่นลดราคา เพื่อดึงดูดให้ประชาชนตัดสินใจเข้ารับบริการกับสถานพยาบาลต่างประเทศ หรือสถานพยาบาลของตน ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานสถานพยาบาลไทยแล้ว ยังสร้างผลกระทบให้กับผู้รับบริการบางราย อีกทั้งยัง เป็นการกระทำผิดกฎหมายสถานพยาบาล ดังนั้น เพื่อป้องปราม และกวาดล้างการกระทำผิดในลักษณะข้างต้น กรม สบส.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ แพทยสภา และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯ  ร่วมเฝ้าระวัง ตรวจสอบกิจกรรม หรือสื่อโฆษณาที่มีการเผยแพร่ในทุกพื้นที่ช่องทาง ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนและส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการตรวจสอบและดูแลคุ้มครองผู้บริโภค

          ด้านนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือให้คำปรึกษาระหว่างแพทย์ต่างชาติและแพทย์ไทยนั้นมีมาอย่างยาวนานแล้ว แต่การกระทำดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย และเป็นการกระทำต่อแพทย์ด้วยกันไม่มีผู้ป่วยมาเกี่ยวข้องจึงไม่ขัดต่อหลักกฎหมาย แต่หากเป็นการเปิดคอร์สให้คำปรึกษา วินิจฉัยโรคแก่ผู้ป่วย หรือประชาชนโดยแพทย์ต่างชาติ แม้แพทย์รายดังกล่าวจะมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมในต่างประเทศ แต่หากไม่มีการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการแพทยสภาอนุมัติให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในไทย ก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรรม พ.ศ. 2525 ฐานเป็นหมอเถื่อน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากการให้คำปรึกษาจัดขึ้นในสถานที่ที่มิใช่สถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานเปิดคลินิกเถื่อน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งแพทย์หรือสถานพยาบาล ที่มีส่วนรู้เห็นหรือได้รับผลประโยชน์จากการจัดกิจกรรมก็จะถือว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย  แต่หากการให้คำปรึกษาโดยแพทย์ต่างชาตินั้นจัดขึ้นในสถานพยาบาล ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็จะมีความผิดในฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะมีการขยายผลตรวจสอบไปยังสื่อโฆษณาของสถานพยาบาลว่ามีการขออนุมัติโฆษณา หรือมีเนื้อหาที่เป็นเท็จโอ้อวดเกินความจริงหรือไม่ หากตรวจพบว่ามีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดก็จะมีการเอาผิดต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำผิดของแพทย์หรือสถานพยาบาลเอกชน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม สบส. 1426

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
ตกลง
ปฏิเสธ
Read more
Functional
Tools used to give you more features when navigating on the website, this can include social sharing.
AddThis
ตกลง
ปฏิเสธ
Analytics
Tools used to analyze the data to measure the effectiveness of a website and to understand how it works.
Google Analytics
ตกลง
ปฏิเสธ