




กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าพัฒนาเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพ (ศบส.) 12 เขตทั่วประเทศ เป็นผู้รับรองหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ลดขั้นตอนการอนุมัติ เพิ่มความรวดเร็วในการพิจารณารับรองหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดสุขภาพยุคใหม่ รองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ (Health Economy) ของประเทศอย่างยั่งยืน
นายแพทย์กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรม สบส. ได้มีการปรับแนวทางการรับรองหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ เดิม กรม สบส. เป็นผู้รับรองและอนุญาตให้ใช้หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ได้แก่ หลักสูตรผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง และหลักสูตรสปาและนวด ซึ่งปัจจุบันมีหลักสูตรกลางที่ได้รับการรับรองแล้วจำนวน 17 หลักสูตร เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดสุขภาพในแต่ละภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรม สบส. จึงได้ดำเนินการถ่ายโอนอำนาจการอนุญาตใช้หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ไปยังศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพ (ศบส.) ทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ เพื่อลดขั้นตอนการอนุมัติ และเพิ่มความรวดเร็วในการพิจารณารับรองหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดสุขภาพยุคใหม่ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญทั้งด้านวิชาการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดการสัมมนาพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ในการส่งเสริมพัฒนา ควบคุมกำกับ มาตรฐานการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพขึ้น ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 - 18 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมไมด้า ดอนเมืองแอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เจ้าหน้าที่ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 - 12 และเจ้าหน้าที่กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 40 คน
“การยกระดับเจ้าหน้าที่ ศบส. ทั้ง 12 เขต ให้มีความเชี่ยวชาญในการรับรองหลักสูตรฯ ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการผลิตบุคลากรผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการสุขภาพในพื้นที่ จนนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ และการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ” นายแพทย์กรกฤชฯ กล่าว
ด้าน นายพรเทพ ล้อมพรม ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ให้ ศบส. เขต ในการรับรองหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและยกระดับศักยภาพบุคลากรในภูมิภาค การสัมมนาพัฒนาศักยภาพในครั้งนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จะต้องมี องค์ความรู้ครบทุกด้าน อาทิ ด้านกฎหมาย มาตรฐานวิชาชีพ และกระบวนการประเมินหลักสูตรอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถดำเนินการพิจารณาและรับรองหลักสูตรได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เมื่อเจ้าหน้าที่และหน่วยงานระดับเขตสามารถรับรองหลักสูตรได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการสุขภาพต่อไป
***************** 8 ธันวาคม 2568